Page 52 - Vacationist Aug16
P. 52

a thousand miles
          5 หมู่บ้านริมทะเลหลากสีสันบนผางามแห่งอิตาลี

















































         เรือประมง และบ้านเรือนสีฉูดฉาดที่แปลงเป็นร้านอาหาร คาเฟ่   สุดทางของหมู่บ้านคือจุดชมวิวที่มองเห็นเวิ้งอ่าวและผืนทะเลกว้างที่
         และร้านขายของที่ระลึกส�าหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว แม้ยังไม่ใช่   ทอดตัวอยู่อย่างสงบนิ่ง อาจเป็นเพราะต้องปีนป่ายขึ้นบันไดและหากมอง
         ฤดูท่องเที่ยวแต่ที่นี่ก็แน่นขนัดไปด้วยนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก   จากมุมไกลหมู่บ้านคอร์นีเกลียอาจจะสวยสู้หมู่บ้านอื่นๆ ไม่ได้ จนหลายคน
         เมื่อมองหาร้านอาหารให้นั่งพักเติมพลังมื้อเที่ยงไม่ได้ ฉันก็ถอยมา  อาจจะเผลอมองข้ามไป แอบเสียดายแทนส�าหรับคนที่เมินหมู่บ้านเล็กๆ
         นั่งพักริมอ่าวมองบรรยากาศคึกคักของหมู่บ้านแสนสวยสักพักใหญ่   แห่งนี้ เพราะถ้าหากได้เขยิบเข้าไปสัมผัสคอร์นีเกลียใกล้ๆ เชื่อว่าที่นี่จะ
         ก่อนจะหลบความวุ่นวายเดินทางไปยังหมู่บ้านต่อไป      กลายเป็นหมู่บ้านงามในสายตาเหมือนที่ฉันรู้สึกถูกชะตาและตกหลุมรัก
            นั่งรถไฟต่อไปยังหมู่บ้านคอร์นีเกลีย ฉันเงยหน้าขึ้นมองบันได   หมู่บ้านนี้เป็นพิเศษ
         375 ขั้นที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไปทีละขั้น ตอนนั้น   นั่งรถไฟต่อมายังหมู่บ้านมานาโรลา สภาพภูมิประเทศที่เป็นไหล่เขา
         ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยทั้งหิว แต่ยิ่งสูงขึ้นไปวิวทะเลจากริมหน้าผาก็ยิ่ง  ริมทะเลและตึกรามบ้านช่องแบบโบราณหลากสีสันริมฝั่งไม่แตกต่างจาก
         สวยตามไปด้วย เมื่อเดินขึ้นมาถึงหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขา สิ่งแรกที่  หมู่บ้านอื่นๆ แต่หากลองออกก�าลังขากันสักนิด เดินขึ้นไปยังเส้นทาง
         ฉันมองหาคือร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ถึงแม้จะ  เทรคกิ้งซึ่งมีจุดชมวิวริมผาขนาบไปกับไร่องุ่นแสนสวย หลังจากกดชัตเตอร์
         เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แล้ว แต่เป็นโชคดีที่ร้านอาหารริมผายังคงเปิดประตู   ถ่ายภาพหมู่บ้านงามสีสวยจนอิ่มใจ ฉันหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้ ผ่อนใจ
         ต้อนรับนักเดินทางผู้หิวโซ ฉันสั่งเมนูรวมมิตรอาหารทะเลทอด   สบายๆ ชมวิวริมทะเล น�้าทะเลกระทบกับแสงแดดวิบวับงดงามจริงๆ
         ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ อาหารอร่อย บรรยากาศดี วิวสวย นับเป็น  การเดินเท้าเลาะไปตามเส้นทางเดินสายสีฟ้าหรือ Blue Trail เป็นที่
         รางวัลที่คุ้มค่ากับการไต่บันไดขึ้นมาบนนี้จริงๆ     นิยมมากส�าหรับนักเดินทางชาวตะวันตก ระยะทางทั้งหมดประมาณ 12
            หลังจากอิ่มท้อง ฉันก็เดินไปยลหมู่บ้านสีลูกกวาดใกล้ๆ ที่นี่เป็น  กิโลเมตร เชื่อมหมู่บ้านทั้ง 5 แห่ง ฉันเคยตั้งใจว่าจะมาเทรคกิ้งที่นี่ให้ได้
         หมู่บ้านเล็กนักท่องเที่ยวบางตาแต่บรรยากาศน่ารัก ฉันชอบเดินไป  สักครั้งหนึ่ง แต่ด้วยเวลาที่มีจ�ากัด ฉันจึงต้องปรับเปลี่ยนการเดินทางให้มี
         ตามตรอกซอกซอยที่มีร้านขายของที่ระลึกแนวอินดี้เน้นสินค้า   ความหลากหลายขึ้น ทั้งนั่งเรือ นั่งรถไฟ เดินชมเมืองและเดินเทรคกิ้ง
         แฮนด์เมดและคาเฟ่เล็กๆ ที่ตกแต่งน่ารักๆ เยอะแยะไปหมด ที่นี่   แค่เพียงช่วงสั้นๆ ในบริเวณใกล้หมู่บ้านมานาโรลาเท่านั้น
         มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากเลม่อนและองุ่นมากมายหลายรูปแบบ ทั้ง  สิ่งที่พลาดในการมาเยือนซิงกเว แตร์เรครั้งนี้ก็คือ การไม่มีโอกาสได้ยล
         เลม่อนสดๆ ลูกโต น�้าเลม่อน สบู่เลม่อน ไวน์องุ่น เพราะเลม่อนและ  “Dell’ amore” หรือที่เรียกกันว่า “ทางเเดินแห่งรัก” ซึ่งเป็นเส้นทาง
         องุ่นเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีชื่อเสียงของชาวซิงกเว แตร์เร  เดินเท้าเชื่อมระหว่างหมู่บ้านมานาโรลาและรีโอมัจจอเร ว่ากันว่าเส้นทางนี้


         52     Vacationist  | Augus t 2016
                                                                       www.VacationistMag.com
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57