Page 91 - VacationistNov15
P. 91

ถ้าใครได้เคยเดินทางผ่านถนนสาทรช่วงตัดกับ
              ถนนนราธิวาสจะต้องเคยเห็นตึกสไตล์โคโลเนียลที ่
              สง่างามมากๆ ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางตึกสมัยใหม่
                         ่
              ในย่านธุรกิจทีวุ่นวาย วันนี้ Eat Ate Eaten จะพา
                                          ่
                                     ่
              เข้าไปชมว่าข้างในมีความน่าตืนตาตืนใจอะไรรออยู่บ้าง


































                       นี้มีชื่อว่า The House on Sathorn โดยอาคาร
              ร้านหลังนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เดิมเป็นวังของ
              หลวงสาทรราชายุกต์ ซึ่งต่อมาได้ถูกใช้เป็นที่ท�าการของสถานทูต
              รัสเซียประจ�าประเทศไทย ภายในแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่
              The Dining Room ซึ่งเป็นห้องอาหารซิกเนเจอร์ The Bar
              ส�าหรับดื่มสังสรรค์ The Courtyard บิสโตรกลางแจ้งส�าหรับ
              การรับประทานอาหารแบบอัลเฟรสโก้ หรือจิบชายามบ่าย และ
              Upstairs คลับเลานจ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งทั้งหมดได้รับการดีไซน์
              ด้วยคอนเซ็ปต์ความหรูหราโออ่าของศิลปะไทยในสมัยก่อน
              ผสมผสานกับงานศิลป์ร่วมสมัยแบบไทย
                 ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มนั้น ทั้งหมดอยู่ภายใต้
              การดูแลของเชฟฟาติห์ ทูทัค ที่เคยร่วมงานกับ Marina Bay
              Sands ในสิงค์โปร์, The Bellbrook Hong Kong, NOMA ร้าน
              มิชลินสตาร์สองดาวในโคเปนเฮเกน และร้าน Nihonryori
              Ryugin มิชลินสตาร์สามดาวในโตเกียว               ชั้นดี ย่างกับถ่านหินเพื่อจ�าลองการท�าอาหารในป่า และใช้ผักแทนปีกของเป็ด
                 เมนูทุกเมนูจะมีที่มาจากความประทับใจ ความทรงจ�าใน   และซอสจากทับทิมแทนเลือดเป็ด
              วัยเด็ก และแรงบันดาลใจจากการเดินทางท่องไปทั่วเอเชียของเชฟ   ในขณะที่ความรู้สึกตื่นตะลึง ในครั้งแรกที่ได้ชิมกล้วยปิ้งแบบไทยระหว่าง
              เช่น “Deep and Shallow” ก็มีที่มาจากความประทับใจ   เดินกลับบ้านพักที่สีลมก็กลายมาเป็นของหวานแสนปราณีตเมื่อจับคู่กับน�้าตาล
              สมัยเด็กที่ได้รับประทานอาหารทะเลสดๆ ที่คุณพ่อจับขึ้นมา    โอกินาว่าและไนโตรเจนเหลวที่ชื่อว่า “On My Way Home to Silom”
              โดยใช้หมึกด�าแทนทะเลลึกและ hourseradish แทนปะการัง   การได้มาสัมผัสกับอาหารที่ประณีต เต็มเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ในบรรยากาศที่
              ส่วนเมนู “Hunting” ก็มาจากประสบการณ์ที่เชฟได้เคยเข้าป่า  หรูหราวิจิตรกับ The House on Sathorn จะต้องเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ
              เพื่อร่วมกีฬาล่าเป็ดกับครอบครัว โดยเชฟได้เลือกใช้อกเป็ด   ไม่รู้ลืมส�าหรับเพื่อนๆ ทุกคนแน่นอนครับ |


                                                                                                    |
                                                                                        November 2015   Vacationist     91
                                                                       www.VacationistMag.com
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96