Page 68 - Vacationist July18
P. 68
68 SIAM PARADISE
Story & Photo by Paladisai Sitthithanyakij
สีสัน-นาฏศิลป์ไทย
และโขนบนเวทีโลก
ท่ามกลางความงดงามแห่งสีสันการแต่งกาย
ที่เกิดขึ้นตามกระแสละครดังทางโทรทัศน์นั้น
ได้ท�าให้หลายคนหันกลับมาสนใจแต่งกาย
อย่างละครหรือย้อนยุคสมัยมากขึ้น ทั้งๆ ที่
เรื่องโขน ละครนอก ละครใน รวมถึงระบ�า
ร�าฟ้อนนั้น ต่างมีบทบาทในการรับมิตรไมตรีจาก
นานาประเทศมาช้านาน การรักษาวัฒนธรรม
การแสดงที่เป็นของดั้งเดิมนั้นได้มีการสืบทอด อารมณ์แห่งสุข หรือความทุกข์และวิธีการสะท้อนออกมาเป็นท่าทางแบบธรรมชาติ
และถ่ายทอดต่อรุ่นมานานตั้งแต่ยุคสมัยสุโขทัย และการประดิษฐ์ท่าทางให้เป็นลีลาการฟ้อนร�า หรือเกิดจากลัทธิความเชื่อในการ
อยุธยาจนถึงปัจจุบันนี้ เพียงแต่การต่อรุ่น นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้า โดยแสดงความเคารพบูชาด้วยการเต้นร�า ขับร้องฟ้อนร�า
ให้สร้างความพึงพอใจ เป็นต้น แม้ว่านาฏศิลป์ไทยนั้นจะรับอิทธิพลแบบแผนตาม
ของวิชาการแสดงนั้นได้รับความสนใจน้อยลง แนวคิดจากต่างชาติเข้ามาผสมผสานด้วย โดยเฉพาะวัฒนธรรมอินเดียที่มีวรรณกรรม
หากไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบวิชานาฏศิลป์ไทย ที่เป็นเรื่องของเทพเจ้าและต�านานการฟ้อนร�า โดยผ่านเข้าสู่ประเทศไทยทั้งทางตรง
โขน ละคร และดนตรีไทย-ดนตรีสากล ในส�านัก และโดยผ่านชนชาติชวาและเขมร ก็จะถูกปรับปรุงให้เป็นรูปแบบจนเป็นเอกลักษณ์
สังคีตศิลป์แล้วก็คงจบสิ้นไปได้ง่าย ตามแม่ยก ของไทย ดังจะเห็นได้จากเทวรูปศิวะปางนาฏราชที่สร้างเป็นท่าการร่ายร�าของ
ของละคร โขน ลิเก ที่เริ่มจะอายุมากขึ้น พระอิศวร ซึ่งมีทั้งหมด ๑๐๘ ท่า หรือ ๑๐๘ กรณะ โดยมีการฟ้อนร�าครั้งแรกในโลก
ณ ต�าบลจิทรัมพรัม เมืองมัทราส อินเดียใต้ ปัจจุบันอยู่ในรัฐทมิฬนาฑูนั้น ถือเป็น
คัมภีร์ส�าหรับการฟ้อนร�า แต่งโดยพระภรตมุนี เรียกว่าคัมภีร์ภรตนาฏยศาสตร์ ซึ่ง
าฏศิลป์ไทยนั้นเป็นการเล่นเครื่องดนตรีหลายๆ ชนิด มีอิทธิพลส�าคัญต่อการสร้างแบบแผนและถ่ายทอดนาฏศิลป์ของอินเดียนี้ โดย
น การละครฟ้อนร�าและดนตรีอันมีคุณสมบัติตาม เผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตามประวัติการสร้างเทวาลัย
คัมภีร์นาฏะหรือนาฏยะ ซึ่งก�าหนดว่า ต้องประกอบไป ศิวะนาฏราชที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๑๘๐๐ นั้นเป็นปีเริ่มตั้งกรุงสุโขทัย ดังนั้นท่าร�าไทย
ด้วย ๓ ประการ คือ การฟ้อนร�า การดนตรี และการขับ ที่ดัดแปลงมาจากอินเดียในครั้งแรกจึงเป็นความคิดของนักปราชญ์ในสมัยอยุธยา
ร้อง รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งสามสิ่งนี้เป็นอุปนิสัยของคนมา และมีการแก้ไขปรับปรุงหรือประดิษฐ์ขึ้นใหม่ในกรุงรัตนโกสินทร์ จนน�ามาสู่การ
แต่ดึกด�าบรรพ์ โดยเฉพาะนาฏศิลป์ไทยนั้นมีประวัติมา ประดิษฐ์ท่าร่ายร�าและละครไทยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการแสดงโขนนั้น
จากความรู้สึกกระทบกระเทือนทางอารมณ์ไม่ว่าจะ ลาลูแบร์ ได้มีโอกาสชมการแสดงนาฏศิลป์ ปราชญ์ส�านักไทยครั้งแผ่นดินพระนารายณ์
Vacationist | July 2018
www.VacationisMag.com