Page 62 - Vacationist Dec16
P. 62
062
SIAM
SIAM
PARADISE
PARADISE
Story & Photo by
Story & Photo by
Paladisai
Paladisai
Sitthithanyakij
Sitthithanyakij
Vacationist
December 2016
สีสัน..ศิลปกรรม
แห่งชวา - บาหลี
ต่อมาปี พ.ศ. ๑๒๑๕ จึงได้มีศูนย์กลางพุทธศาสนาอยู่ที่เมืองปาเลมบัง
ในคริสตศตวรรษแรกนั้นชาวฮินดูจากอินเดียตะวันออกเฉียงใต้ ในเกาะสุมาตรา และชวาตอนกลางซึ่งมีพระบรมพุทโธหรือบูโรบูดูว์ เป็น
่
ได้เดินทางเผยแพร่ศาสนามาสู่ประเทศทีอยู่ทางทะเลใต้หรืออุษาคเนย์ สถานที่ศักด์สิทธิ์ของพุทธนิกายมหายาน ตั้งอยู่ภาคกลางของเกาะชวา
่
ทั้งทีอพยพเข้ามาในดินแดนสุวรรณภูมิและเดินทางไกลไปถึง บนที่ราบเกฑุ ทางฝั่งขวาใกล้กับแม่น�้าโปรโก ห่างจากยอกยาการ์ตาไป
่
อินโดนิเซีย จากการเดินทางอย่างต่อเนืองจนถึงคริสตศตวรรษ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ๔๐ กิโลเมตร สร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์
่
่
ที ๗ นั้น ได้ท�าให้ศิลปกรรมความเชือถือและศาสนาฮินดูได้อุบัติขึ้น ไศเลนทร์ เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษ
่
จนผสมผสานกลืนกลายเป็นวัฒนธรรมส�าคัญของชาติในทีสุด ที่ ๗ - ๘ หรือราว พุทธศักราช ระหว่างปี พ.ศ. ๑๒๙๓ - ๑๓๙๓
โดยเฉพาะภาษาสันสกฤต และภาษาปัลวะนั้น ต่อมาได้วิวัฒนาการ นับเป็นพุทธสถานแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกบุโรพุทโธ ส่วน
่
เป็นภาษาชวาเก่า ชวาใหม่ และอักษรอินโดนิเซียอืนๆ ขึ้น ศาสนาฮินดูนั้นมีการสร้างเทวสถานส�าคัญขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะ
“ปรัมบานัน” (Prambanan) หรือ จันดีปรัมบานัน (Candi Prambanan)
เป็นเทวสถานศาสนาฮินดูที่มีความส�าคัญ ตั้งอยู่ห่างจากยอกยาการ์ตา
ฒนธรรมส่วนใหญ่ของอินโดนิเซียที่รับมาจากชาวฮินดูของอินเดียนั้นมีมากมาย ซึ่งก็มีที่มาจากชื่ออโยธยาของอินเดีย ไปทางตะวันออกประมาณ ๑๘
วัดังเห็นได้จาก สถาปัตยกรรม ปะติมากรรมรูปปั้น วรรณคดี ดนตรี นาฏศิลป์ กิโลเมตร สร้างขื้นเมื่อราวปี พ.ศ. ๑๓๙๐ หลังจากสร้างเสร็จได้ไม่นาน
และการเล่นพื้นเมือง ซึ่งยังคงมีอยู่ในชวาบาหลี และลอมบอร์กตะวันตก แม้ว่า ก็ถูกทอดทิ้งและถูกปล่อยให้ทรุดโทรมตามกาลเวลา พ.ศ. ๒๓๔๙ (ค.ศ.
พุทธศาสนาฝ่ายมหายาน และฝ่ายเถรวาท จากอินเดียตามมาเผยแผ่ในอินโดนิเซีย ๒๐๐๖) ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นบนเกาะชวา จึงท�าความเสียหาย
ระหว่างปี พ.ศ. ๖๔๓ - ๗๔๓ ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย พุทธศาสนารุ่งเรืองมากขึ้น อย่างมากให้แก่ "ปรัมบานัน" จนบรรดาสิ่งก่อสร้างหลายแห่งโดยเฉพาะ
เทวาลัยขนาดเล็กที่อยู่รายรอบปรางค์ประธานนั้นได้พังเสียหายหนัก
จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๖๑ (ค.ศ. ๑๙๑๘) จึงได้มีการบูรณะวัดขึ้นใหม่ โดย
ได้บูรณะสิ่งก่อสร้างหลักที่ส�าคัญจนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ (ค.ศ.
๑๙๕๓)
ปรัมบานัน เป็นกลุ่มเทวสถานที่ก่อสร้างด้วยหินจ�านวนหลายหลัง
ลักษณะคล้ายเทวาลัยหรือปราสาท โดยสร้างเทวาลัยหลัก ๘ หลัง
อยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยเทวาลัยขนาดเล็กเป็นบริวารมีมากกว่า
๒๐๐ หลัง มีแนวก�าแพงล้อมรอบ เทวาลัย ขนาดใหญ่ ๓ หลัง โดย
หันหน้าไปทางทิศตะวันออก คล้ายเจดีย์ทรงกลีบมะเฟืองที่รับ
อิทธิพลมาจากศิลปะอินเดีย เทวาลัยประธานหลังกลางเด่นที่สุด
สูงถึง ๔๗ เมตร เป็นเทวาลัยที่สร้างขึ้นถวายแด่พระอิศวร ส่วนอีก
สองหลังที่มีขนาดเล็กกว่าเป็น เทวาลัยทิศเหนือสร้างถวายแด่
พระนารายณ์ และเทวาลัยทิศใต้สร้างขึ้นถวายแด่พระพรหม รอบ
เทวาลัยนั้นมีภาพสลักนูนท�าจากหินลาวาภูเขาไฟ ประดับก�าแพงนั้น
ประณีตงดงามมากเป็นภาพ เรื่องพระผู้เป็นเจ้า เรื่องรามายณะและ
เรื่องราวจากต�านาน จึงท�าให้เป็นเทวสถานแห่งศิลปกรรมมรดกโลก
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาเซียน ทั้ง “กลุ่มวัดบูโรบูดูร์” และ “วัดปรัมบานัน”
นั้นต่าง เป็นตัวแทนงานชิ้นเอกที่สร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทั้งสองแห่งและถือเป็นต้นแบบ
ศิลปกรรมที่มีความงดงามยิ่ง ซึ่งต้องขอขอบคุณคุณธนิสสร เพชรถนอม
ช่างภาพมือดีช่วยถ่ายภาพหาแสงเงางดงามมาให้ชมกัน |
www.VacationistMag.com