Page 79 - Vacationist Sep18
P. 79
ทั้งหลาย ย้อนไปเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 สมัยก่อนแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่า
ศิลปินในหลากหลายแขนง ทั้งนักดนตรี นักเขียน นักวาด เพราะจากตรงนี้จะมอง
เห็นวิวชายหาด และท่าเรืออย่างชัดเจน เป็นแรงบันดาลใจชั้นยอดของเหล่าศิลปิน
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็น หอแสดงศิลปะและบาร์มากมายบริเวณนี้ หนึ่งใน
ไฮไลต์ส�าคัญที่ควรท�า หากได้มาย่านนี้คือการนั่งรถรางโบราณสาย Santa Teresa
Tramline ตัดผ่านไปตามทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ คุณจะเห็นสถานที่
ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายจุด เช่น สวนซากปรักหักพัง (Parque das Ruinas) ของ
คฤหาสน์ของทายาทชาวบราซิล ลอรินดา แซนตูส โลบู ซึ่งคฤหาสน์หลังนี้ในอดีต
เป็นจุดนัดพบส�าหรับบรรดาศิลปินและนักปราชญ์ที่มีอิทธิพลของรีโอ เด จาเนโร
เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นรถรางสายสุดท้ายที่ยังใช้งานอยู่ใน
เมื่อปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปัจจุบัน อีกหนึ่งจุดคือ บันไดเซลารอน (Escadaria Selaron หรือ Lapa Steps)
สนามนี้ถูกใช้เป็นที่จัดพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกนั่นเอง
อีกทั้งใช้เป็นที่จัดพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิกปี 2016 เมื่อ
วันที่ 5 สิงหาคม 2016 สนามนี้สามารถจุผู้ชมได้ 80,000 คน
นับเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ และเป็นหนึ่งใน
แลนด์มาร์กที่คอกีฬาฟุตบอลจะต้องแวะมาสัมผัสให้ได้ เพราะ
นอกจากจะเป็นสถานที่จัดงานส�าคัญสองงานดังกล่าวแล้ว
ที่นี่ยังมีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของฟุตบอลบราซิล
เกิดขึ้นมากมาย เช่น การยิงประตูที่ 1,000 ของเปเล่ ต�านาน
ลูกหนังแซมบ้าเมื่อ 40 ปีก่อน และยังเป็นสนามที่เขาลงเล่น
ให้ทีมชาติเป็นนัดแรก และยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน
ฟุตบอลระดับโลกมาแล้วหลายรายการ ขนาดผมไม่ได้ถือว่า
เป็นคอบอลจ๋า ยังรู้สึกทึ่งไม่ได้กับความใหญ่โตและเทคโนโลยี
ต่างๆ ของสนามแห่งนี้
ที่รีโอ เด จาเนโรนี้มีย่านชุมชนเหมาะส�าหรับการท่องเที่ยว
หลายแห่งอย่างเช่นที่ ย่านซานต้า เทเรซ่า (Santa Teresa)
ย่านนี้น่าจะเหมาะกับเหล่าศิลปินและนักท่องเที่ยวสายฮิปสเตอร์
September 2018 | Vacationist | 79
www.VacationisMag.com