Page 62 - VacationistNov16
P. 62

062


                 SIAM
                 SIAM
           PARADISE
           PARADISE
             Story & Photo by
             Story & Photo by
                 Paladisai
                 Paladisai
              Sitthithanyakij
              Sitthithanyakij
          Vacationist
          November 2016
          สีสัน..ศิลปกรรม


          แห่งอาณาจักรจามปา                                    พ่อขุนรามค�าแหงแห่งกรุงสุโขทัยได้ยกทัพไปตีอีก สุดท้าย พ.ศ. ๒๐๑๔
                                                               ราชวงศ์เลของชาวเวียดนามได้ยกมาตีเอาราชธานีของจามปาคือ
                                                               เมืองวิชัย (บิ่ญดิ่ญ) แตก การศึกครั้งนั้นชาวจามปาเสียชีวิต ๖๐,๐๐๐ คน
                                                               และถูกจับเป็นเชลยอีก ๓๐,๐๐๐ คน ท�าให้สูญสิ้นอาณาจักรเป็น
                                                               เมืองขึ้นญวน และท�าให้บางส่วนพากันอพยพมาในอาณาจักรสยามและ
                                                               เป็นอาสาจามในอยุธยาโดยมาความรับผิดชอบด้านเรือทะเล โดยได้เป็น
                                                               พนักงานก�าปั่นหลวงตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราชจนถึงรัชกาลที่ ๕
                                                               ชาวจามปานั้นเดิมนับถือศาสนาพราหมณ์และพระพุทธศาสนา ต่อมา
                                                               เมื่อชาวมลายูเผยแพร่ศาสนาอิสลามไปถึง จึงท�าให้ชาวจามปาหันมา
                                                               นับถือศาสนาอิสลาม คนไทยมักเรียกว่า แขกจาม
                                                                  ดังนั้นโบราณสถานและศิลปกรรมของชาวจามปาที่ยังเหลืออยู่นั้น
                                                               จึงน่าสนใจมาก ปัจจุบันสามารถศึกษาได้จากบริเวณของเมืองเว้, ตามกี่,
                                                               ฟานซาง - ท้าปจ่าม และญาจาง และในพิพิธภัณฑ์จามที่ดานังของ
                                                               เวียดนามนั้นมี โบราณวัตถุศิลปจามให้เห็นสีสันซึ่งแยกได้ ๖ สมัย คือ •
                                                               ศิลปสมัยก่อนฮัวลาย (Hoa - lai) ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ • ศิลปสมัย
                                                               ฮัวลาย ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔ • ศิลปสมัยดงเดือง (Dong - Duong)
                                                               หรือเมืองอินทรปุระ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ • ศิลปสมัยมีเซิน A-1 (Mi-
                                                     ่
                   ่
                                             ่ ่
          จากละครเรืองนาคีนั้น ท�าให้นึกถึงชนชาติหนึงทีน่าจะเกียวพัน  Son A-1) ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - ๑๖ • ศิลปสมัยบิญดิ่ญ (Binh - Dinh)
                                               ่ ่
          กับพญานาคมาก คือ ชนชาติจามปาหรือหลินยีทีเราเรียก     หรือเมืองวิชัย ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ๑๙ • ศิลปะสมัยหลังราวพุทธ
                                   ่
          กันว่า ชาวจาม ด้วยเป็นชนเผ่าทีสืบเชื้อสายจากชาวมาลาโย  ศตวรรษที่ ๑๙ เป็นต้น ชาวจามปานั้นมีกลุ่มปราสาทมี่เซินเป็นนคร
                                       ่
          โพลินีเชียน เป็นชนเผ่าอยู่ติดกับทะเลทีมีความสามารถทาง    ศักดิ์สิทธิ์ที่ยกย่องเป็นแหล่งมรดกโลก ปราสาทจามนี้ก่อนสร้างด้วยอิฐ
          การเดินเรือ จนสามารถสถาปนาเป็นอาณาจักรจามปาขึ้น      ซึ่งเหลืออยู่ ๒๓ แห่งจาก ๙๕ แห่ง มีทั้งอาคารตั้งอยู่เอกเทศและเป็นหมู่
                                                    ่
                     ่
          มีปฐมกษัตริย์ชือ จูเหลียน ได้ตั้งราชวงศ์ขึ้นปกครองตังแต่    มีอาคารประกอบ  ลวดลายประดับเสาติดกับผนังสมัยดงเดืองนั้นเป็น
                                 ่
          ปี พ.ศ. ๙๑๕ มีราชธานีอยู่ทีเมืองวิชัย หรือ บินดินห์  แบบจามอย่างแท้จริง คือ มีลวดลายช่อดอกไม้และลวดลายซึ่งมีรูปคล้าย
                                                               พิณโดยเฉพาะลายก้านขด ปฏิมากรรมสมัยดงเดืองเป็นที่รู้จักกันดีคือ
                                                               รูปพระศิวะยืนหรือนั่งชันเข่า ทวารบาลที่มีท่าทางดุร้าย พระพุทธรูปมี
             าณาจักรจามปามีกษัตริย์ปกครองประเทศถึง ๑๒ ราชวงศ์ โดยมี   จีวรเป็นริ้วใหญ่ท�าเป็นชั้นๆ ฐานของรูปเหล่านี้มีรูปบุคคลประกอบอยู่
          อการย้ายเมืองหลวงดังนี้ เมืองอินทรปุระเมื่อ พ.ศ. ๑๔๑๕ - ๑๕๒๑   เป็นจ�านวนมาก ซึ่งมีลักษณะของชนพื้นเมืองชัดเจน ปฏิมากรรมที่
          เมืองวิชัยเมื่อ พ.ศ. ๑๕๒๑ - ๒๐๒๘ และเมืองปันดุรังงะเมื่อ พ.ศ. ๒๐๒๘   ตราเกียว (Tra Kieu) หรือ จัมปานครี มีรูปร่างคล้ายของจริงตามอุดมคติ
          - ๒๓๖๓ และเสื่อมอ�านาจลงจึงถูกรวมกับอาณาจักรของราชวงศ์เหงียน  ที่มีลักษณะส�าคัญคือ มีความชดช้อย งามสง่าและอ่อนนุ่ม รูปบุคคลและ
          เมื่อ พ.ศ.๒๓๗๕ ด้วยเหตุอาณาจักรจามปา เป็นอาณาจักรโบราณที่มี   รูปสัตว์มักจะมีลักษณะอ่อนนุ่มและคดโค้งพร้อมกัน ล�าตัวเอนเอียงอยู่
          ความเจริญรุ่งเรืองอยู่ทางใต้ของจีน และอยู่ทางเหนือของอาณาจักรฟูนัน  เหนือบั้นเอว ภาพสลักนูนสูงมีอยู่มากกว่าภาพที่มองเห็นได้รอบด้าน ซึ่ง
          เป็นที่รู้จักกันอย่างดีจาก มาตวนหลิน ชาวจีนได้เดินทางผ่านมาเมื่อ   ลักษณะของศิลปะจามทุกสมัยที่ท�าให้ดูไปดูมาเหมือนศิลปทวาราวดีที่มี
          พุทธศตวรรษที่ ๑๐ ซึ่งเขียนถึงเรื่องของชาวหลินยี่หรือชาวจามปาว่า    อิทธิพลเข้ามาในไทยอย่างไรอย่างนั้น |
          “ชาวบ้านสร้างบ้านด้วยอิฐแล้วฉาบด้วยปูน หญิงและชายมีผ้าฝ้ายผืนเดียว
          ห่อหุ้มร่างกาย และชอบเจาะหูและห้อยห่วงเล็ก ผู้ดีใส่รองเท้าหนัง
          พวกไพร่เดินเท้าเปล่า พระราชาทรงพระมาลาทรงสูง ทรงช้าง และล้อมรอบ
          ด้วยบริพารถือธงและกลดกั้น”
            ชาวจามปาได้ถูกกองทัพของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๒ กษัตริย์ของ
          อาณาจักรเขมร เข้าตีเมื่อพุทธศตรวรรษที่ ๗ และต่อมาใน พ.ศ. ๑๘๕๖


                                                                       www.VacationistMag.com
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67