Page 31 - Vacationist June16
P. 31

(Montreux) ซึ่งเมืองเหล่านี้เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว
              แต่หลายคนอาจมองข้ามเมืองเล็กนามว่าเวเว่ย์ (Vevey)
              เพราะแทบจะมองไม่เห็นในแผนที่ท่องเที่ยว และตั้งอยู่ไม่ไกล
              จากเมืองดังอย่างมองเทรอซ์หรือโลซานน์เลย
                 ฉันชอบมานั่งชมวิวเดินเล่นริมทะเลสาบที่เมืองเวเว่ย์
              ในวันหยุดสุดสัปดาห์มากกว่าเมืองใหญ่อื่นๆ ในสวิสริเวียร่า
              เพราะได้บรรยากาศพักผ่อนมากกว่าบรรยากาศท่องเที่ยว
              ภาพคู่รักและเพื่อนฝูงนั่งชิลพูดคุย ภาพครอบครัวเดินเล่น
              ออกก�าลังกายด้วยกัน ภาพทะเลสาบสีฟ้าเข้มมีขุนเขาเป็น
              ฉากหลัง ภาพเป็ดน้อยลอยละล่องบนผิวน�้า ช่วยเพิ่มความ
              อบอุ่นในหัวใจให้กับคนไกลบ้านอย่างฉันได้ดีเสมอ
                 หากมาถึงเมืองเวเว่ย์ควรต้องแวะไปชม Musée de
              l’alimentation หรือ Alimentarium พิพิธภัณฑ์อาหารที่
              เคยเป็นส�านักงานใหญ่ของบริษัทเนสท์เล่ - บริษัทยักษ์ใหญ่
              ด้านอาหารและเครื่องดื่มของโลก ภายในมีการจัดแสดงให้
              เห็นวิถีการบริโภคของผู้คนที่แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม
              มีการอธิบายว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นเกิดขึ้นและได้รับ
              ความนิยมได้อย่างไร และมีจุดทดสอบประสาทสัมผัสของ
              เราที่มีต่ออาหาร นอกจากนั้นเรายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับแคลอรี
              อาหารที่บริโภค ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีประติมากรรมสุดเก๋
              เป็น “ส้อม” ขนาดยักษ์ปักไว้ในน�้า จนกลายเป็นสัญลักษณ์
              ของเมืองไปแล้ว ใกล้ๆ กันมีรูปปั้นของชาร์ลี แชปลิน
              (Chaplin Statue) ที่ใครๆ ก็ต่างเดินเข้าไปถ่ายภาพคู่
              เป็นที่ระลึก บริเวณนี้ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่ส�าคัญแห่งหนึ่ง
              ของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นแหล่งท�าไร่องุ่นที่ได้รับการ
              ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย เชื่อว่าหากใครได้มาเยือน
              ที่นี่จะต้องหลงเสน่ห์ “ไข่มุกแห่งสวิสริเวียร่า” แห่งนี้อย่าง
              แน่นอน


              ทุ่งหญ้า ภูเขาเขียว และปราสาทโบราณแห่งเมืองชีส
                 จากเขตสวิสริเวียร่าเดินทางไปทางเหนือสู่เมืองกรุยเยร์
              (Gruyéres) เป็นเมืองที่มีชื่อด้านการท�าชีส คนที่มาเที่ยว
              เมืองกรุยเยร์ส่วนใหญ่จะตามกลิ่นชีสมา หลายคนเดินทาง
              มาที่นี่เพื่อมาชิมอาหารประจ�าชาติสวิสอย่าง “ชีสฟองดู
              (Fondue)” ขนมปังก้อนเล็กๆ จุ่มในหม้อร้อนที่บรรจุเนยแข็ง
              เคี่ยวละลายในไวน์ขาว เหล้าเชอร์รี และเครื่องเทศ และ
              อีกเมนู “Raclette” ชีสเนื้อกึ่งแข็งที่ท�าจากนมวัว เวลา
              รับประทานนิยมละลายด้วยความร้อนรับประทานกับ
              มันฝรั่งลูกเล็ก แตงกวาดอง หอมดองและเนื้อแห้งคล้ายกับ
              การรับประทานชีสฟองดู
                 ณ ลานกลางเมืองมักมีนักดนตรีแต่งตัวแบบสวิสโบราณ  ของปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวเขาและทุ่งหญ้าสีเขียวรายรอบ
              มาบรรเลงเพลงด้วยเครื่องดนตรีแบบสวิสแท้ๆ ให้ได้ฟัง   เรายังได้เห็นเมืองกรุยเยร์ในมุมสูง บรรยากาศแบบชาวบ้านแสนคลาสสิก
              เพลินๆ ขณะนั่งรับประทานอาหารหรือนั่งจิบกาแฟใน   หากใครสนใจกรรมวิธีการผลิตที่มาของรสชาติชีสนุ่มละมุนลิ้น ก็สามารถ
              บริเวณนั้นด้วย หลังอิ่มท้อง ให้ลองเดินออกก�าลังน่องขึ้นไป  ไปชมได้ที่โรงงาน La Maison du Gruyere ต้นต�ารับการผลิตเนยแข็งที่ขึ้นชื่อ
              ยังปราสาทโบราณที่ตั้งบนเนินเขา ชื่อว่า Château de   ของสวิสซึ่งมีสีเหลืองอ่อน รสชาติมันเข้มข้น หรือจะไปเข้าชมการผลิตช็อกโกแลต
              Gruyéres ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 ด้านหน้าประตู  ที่โรงงาน Cailler Nestle ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน แม้ว่าสวิตเซอร์แลนด์จะไม่ได้เป็น


                                                                                                    |
                                                                                            June 2016   Vacationist     31
                                                                       www.VacationistMag.com
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36