Page 70 - Vacationist July16
P. 70
070
SIAM
SIAM
PARADISE
PARADISE
Story & Photo by
Story & Photo by
Paladisai
Paladisai
Sitthithanyakij
Sitthithanyakij
Vacationist
J ul y 2016
สีสัน - เส้นทางสายไหม
ที่เอเชียกลาง
่
่
เส้นทางสายไหมนั้นเป็นเส้นทางโบราณทีน่าสนใจ ซึงมีทั้งเส้นทางสายไหม
่
่
ทางทะเลทีมีการเดินเรือซึงมีเอกสารและจดหมายเหตุกล่าวถึงอยู่มาก และ
่
เส้นทางสายไหมทางบกทีน้อยคนแทบจะให้ความสนใจ ด้วยเป็นเส้นทาง
่
ทุรกันดารและมีหลายเส้นทางในดินแดนชาติอืน ดังนั้นการศึกษาส�ารวจ
่
ทางบกต้องสานสัมพันธ์ไปยังประเทศอืนๆ
อัลมาตีนั้นแม้ปัจจุบันจะไม่ได้เป็นเมืองหลวง แต่ก็ยัง
มีร่องรอยของการเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของคาซัคสถาน
เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา และ
การคมนาคม มีประชากรอาศัยหนาแน่นที่สุด โดยมี
อาคารบ้านเรือน ถนน และสวนสาธารณะหลายแห่ง
ที่สร้างขึ้นตามแบบศิลปกรรมรัสเซีย จนท�าให้อัลมาตี
ได้รับสมญานามว่าเป็น “มอสโคว์แห่งเอเชียกลาง”
โดยเฉพาะโบสถ์เซนคอฟ (Zenkov Cathedral)
สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1907 สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง
โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ถือเป็นโบสถ์ไม้ที่สูงเป็น
อับดับ 2 ของโลก โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์แบบรัสเชียน
ออร์โทดอกซ์ (Russian Orthodox) ที่งดงามแข่งกับ
โบสถ์ที่ส�าคัญในกรุงมอสโคว์หรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ครั้นเมื่อส�ารวจในระยะสั้นไปตามถนนที่ครั้งหนึ่ง
ดยเฉพาะบริเวณเอเชียกลางหรือยูโรเซียในปัจุบัน จ�าเป็นต้องใช้เมืองอัลมาตีของ ในอดีตเป็นเส้นทางค้าขายสายแพรไหมของชาวคาซัค
โคาซัคสถานเป็นจุดเริ่มต้น ด้วยเป็นเมืองชายแดนที่ต่อเชื่อมกับประเทศจีน ครั้งนั้น และพ่อค้าจีน ระหว่างทางมีแหล่งโบราณคดีที่มี
รัสเซียได้สร้างเมืองอัลมาตีให้เป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อควบคุมชายแดนที่ติดต่อ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ประกอบกับโบราณวัตถุที่พิพิธภัณฑ์
กับประเทศจีน โดยมีเทือกเขาเทียนซานอันสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เป็นพรมแดนธรรมชาติ กลาง (Central State Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์
เดิมนั้นเป็นเส้นทางส�าคัญของการค้าขายผ้าแพรไหมในอดีต เทือกเขาเทียนซานนี้ ที่ใหญ่และส�าคัญที่สุดในอัลมาตีนั้น ได้ร่องรอยทาง
เป็นแนวพรมแดนที่กั้นระหว่าง 3 ประเทศ คือ จีน คาซัคสถาน และคีร์กิซสถาน โดยเฉพาะ โบราณคดีและประวัติศาสตร์ของเส้นทายสายไหมที่นี่
www.VacationistMag.com