Page 57 - VacationistDec15
P. 57
จะว่าไป ลิฟวิ่งสโตนเป็นเมืองไม่ใหญ่โตเท่าไหร่ ผู้คนที่นี่มีแค่แสนกว่าคนเท่านั้น
แต่จัดได้ว่าเป็นเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวพุ่งมาหาเมื่อมาถึงแซมเบีย อาคารบ้านเรือนโรย
สีสันไว้พอตัว อาจเป็นเพราะลิฟวิ่งสโตนเคยเป็นเมืองอาณานิคมของอังกฤษ สถาปัตยกรรม
ยุคโคโลเนียลจึงมีทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
และถึงแม้ว่าการท่องเที่ยวจะเข้ามามีอิทธิพลกับเมืองนี้มากกว่าเมืองอื่นๆ แต่ผู้คน
ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ที่จริงฉันสังเกตตั้งแต่นั่งรถจากสนามบินมาที่นี่แล้วว่าผู้คน
จะนิยมปั่นจักรยานเข้าเมืองหรือไม่ก็ใช้ 2 เท้าเดินเหินเข้าเมืองกัน เพราะรถเมล์ดูเหมือน
ยังไม่มี ใครมีสตุ้งสตางค์หน่อยก็ต้องใช้เหมาแท็กซี่เอา
กลางเมืองมีพิพิธภัณฑ์ลิฟวิ่งสโตน (Livingstone Museum) ให้ตามรอยเรื่องราว
อดีตของเมืองนี้และแซมเบียด้วย ด้านในบอกเล่าความเป็นมาของแซมเบียในอดีตอย่าง
ละเอียด ว่ากันตั้งแต่กะโหลกของมนุษย์ยุคโบราณที่ขุดพบในแซมเบีย ไปจนถึงพวกเสื้อผ้า
อาภรณ์แบบพื้นเมือง รวมถึงมุมที่แสดงเรื่องราวชีวิตของเดวิด ลิฟวิ่งสโตน ในแง่มุมต่างๆ
ไปจนถึงบันทึกการเดินทางในแอฟริกาและแซมเบียของเขา ที่ว่ากันว่าเป็นฉบับจริง
พักผ่อนหย่อนอารมณ์อยู่ในเมืองลิฟวิ่งสโตนอย่างสบายอารมณ์ วันรุ่งขึ้นนั่นแหละ
ถึงได้นั่งรถข้ามประเทศไปหาประเทศบอตสวานา เป็นประเทศที่ต้องข้ามพรมแดนกัน
ทางน�้า เมื่อสุดระยะบัสจะปล่อยผู้โดยสารลงตรง
ริมแม่น�้า จากนั้นทุกคนจะต้องลงเรือล�าน้อยที่จอด
คอยท่าทุกคนอยู่ และข้ามไปส่งฝั่งบอตสวานา ไม่ถึง
10 นาทีเรือก็ถึงฝั่งบอตสวานา ถึงจังหวะนี้ไม่ต้อง
เก้ๆ กังๆ เพราะจะมีบัสมาเสยผู้โดยสารไปส่งตรง
จุดตรวจคนเข้าเมือง
ถึงตรงนี้ มีบางอย่างท�าให้ฉันอดสงสัยไม่ได้
เพราะชาวเมืองที่เดินผ่านด่านทุกคนจะต้องไปจุ่ม
รองเท้าของตัวเองลงบนแอ่งน�้าเล็กๆ ด้านหน้าด่าน
ตรวจ แม้แต่โชเฟอร์รถบรรทุกทุกคน ก็จะจอดรถลง
แล้วหอบหิ้วรองเท้าทุกคู่ที่มีบนรถไปจุ่ม โชเฟอร์ช่วย
คลี่คลายว่าเป็นการฆ่าเชื้อก่อนจะเข้าประเทศ ทุกคน
|
December 2015 Vacationist 57
www.VacationistMag.com